“ปัญหาการหย่อนคล้อยของใบหน้า” เกิดจากการหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อผิวในบริเวณใบหน้าส่วนบน ส่วนกลางและส่วนล่าง ตั้งแต่บริเวณหน้าผาก คิ้ว ตา ไปจนถึงแก้ม กรอบหน้าและลำคอขาดความกระชับ ผิวหนังห้อยคล้อย ซึ่งจะมีผลต่อบุคลิกภาพ ทำให้ดูเหนื่อยล้าหรือดูกังวลอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้ดูมีอายุมากขึ้นกว่าความจริงแล้ว ก็ยังกลายเป็นคนที่ดูไม่มีความสุขไปด้วย ดังนั้นการดึงหน้ายกกระชับ จะช่วยคุณกลับคืนสู่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง
“ปัญหาการหย่อนคล้อยของใบหน้า” เกิดจากการหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อผิวในบริเวณใบหน้าส่วนบน ส่วนกลางและส่วนล่าง ตั้งแต่บริเวณหน้าผาก คิ้ว ตา ไปจนถึงแก้ม กรอบหน้าและลำคอขาดความกระชับ ผิวหนังห้อยคล้อย ซึ่งจะมีผลต่อบุคลิกภาพ ทำให้ดูเหนื่อยล้าหรือดูกังวลอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้ดูมีอายุมากขึ้นกว่าความจริงแล้ว ก็ยังกลายเป็นคนที่ดูไม่มีความสุขไปด้วย ดังนั้นการดึงหน้ายกกระชับ จะช่วยคุณกลับคืนสู่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง
“ปัญหาการหย่อนคล้อยของใบหน้า” เกิดจากการหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อผิวในบริเวณใบหน้าส่วนบน ส่วนกลางและส่วนล่าง ตั้งแต่บริเวณหน้าผาก คิ้ว ตา ไปจนถึงแก้ม กรอบหน้าและลำคอขาดความกระชับ ผิวหนังห้อยคล้อย ซึ่งจะมีผลต่อบุคลิกภาพ ทำให้ดูเหนื่อยล้าหรือดูกังวลอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะทำให้ดูมีอายุมากขึ้นกว่าความจริงแล้ว ก็ยังกลายเป็นคนที่ดูไม่มีความสุขไปด้วย ดังนั้นการดึงหน้ายกกระชับ จะช่วยคุณกลับคืนสู่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง
เป็นเทคนิคที่ นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน กลายเป็นเทคนิคเฉพาะโดย TNC Clinic เรียกว่า “Foxy Eyes by TNC” เป็นการผ่าตัดดึงหน้าช่วงบน ในระดับลึกถึงชั้นSMAS ที่ช่วยในการยกกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังที่หย่อนคล้อย บริเวณขมับ หางคิ้ว,หางตา ยกเปลือกตาล่าง,ยกโหนกแก้ม,ลดร่องแก้ม เรียกได้ว่าผ่าตัด1อย่าง ได้ผลลัพธ์พร้อมกันถึง 6 อย่าง
เป็นเทคนิคที่ นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน กลายเป็นเทคนิคเฉพาะโดย TNC Clinic เรียกว่า “Foxy Eyes by TNC” เป็นการผ่าตัดดึงหน้าช่วงบน ในระดับลึกถึงชั้นSMAS ที่ช่วยในการยกกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังที่หย่อนคล้อย บริเวณขมับ หางคิ้ว,หางตา ยกเปลือกตาล่าง,ยกโหนกแก้ม,ลดร่องแก้ม เรียกได้ว่าผ่าตัด1อย่าง ได้ผลลัพธ์พร้อมกันถึง 6 อย่าง
เป็นเทคนิคที่ นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน กลายเป็นเทคนิคเฉพาะโดย TNC Clinic เรียกว่า “Foxy Eyes by TNC” เป็นการผ่าตัดดึงหน้าช่วงบน ในระดับลึกถึงชั้นSMAS ที่ช่วยในการยกกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังที่หย่อนคล้อย บริเวณขมับ หางคิ้ว,หางตา ยกเปลือกตาล่าง,ยกโหนกแก้ม,ลดร่องแก้ม เรียกได้ว่าผ่าตัด1อย่าง ได้ผลลัพธ์พร้อมกันถึง 6 อย่าง
เป็นเทคนิคที่ นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน กลายเป็น เทคนิคเฉพาะโดย TNC Clinic เรียกว่า “Foxy Eyes by TNC” เป็นการผ่าตัดดึงหน้าช่วงบน ในระดับลึกถึงชั้น Smas ที่ช่วยในการยกกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังที่หย่อนคล้อย บริเวณขมับ หางคิ้ว,หางตา ยกเปลือกตาล่าง,ยกโหนกแก้ม,ลดร่องแก้ม เรียกได้ว่าผ่าตัด1อย่าง ได้ผลลัพธ์พร้อมกันถึง 6 อย่าง
เหมาะกับใคร?
• วัยรุ่น
ที่มีลักษณะ คิ้วต่ำ,หางตาชี้ลง ทำให้ดูหน้าเศร้า
• วัยกลางคน
– คนที่ยังไม่เคยศัลยกรรมเปลือกตาบน(ตาสองชั้น) แต่มีลักษณะหางคิ้วตก,หางตาตก,ร่องแก้มเริ่มสึก
– คนที่เคยศัลยกรรมตาสองชั้นมาแล้วแต่หางคิ้ว,หางตา,โหนกแก้มเริ่มคล้อย,ร่องแก้มเริ่มสึก
• วัยสูงอายุ
– คนที่ยังไม่เคยทำศัลยกรรม แต่ชั้นตาด้านในช่วงกลางจากใต้ตาดำเข้าไปยังมีชั้นตาเห็นชัดขึ้นแต่มีลักษณะหางคิ้วตก,หางตาตก,โหนกแก้มหย่อนคล้อย ทำให้มิติหน้าส่วนกลางแบน,ร่องแก้มลึก
– คนที่เคยทำศัลยกรรมมา
หางคิ้ว,หางตาตกยังตก,โหนกแก้มคล้อยห้อย ทำให้มิติหน้าส่วนกลางแบน,ร่องแก้มลึก
การยกคิ้วเอ็นโดรไทน์คือการกรีดในไรผมเป็นเส้นเล็กๆ แล้วจึงสอดใส่เอ็นโดรไทน์ วัสดุทางการแพทย์ที่ออกแบบมาอย่างพิเศษ เพื่อเป็นการทำให้เนื้อเยื่อของผิวกระชับขึ้น เป็นวัสดุที่ปลอดภัย ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศเกาหลีและ FDA สหรัฐอเมริกาทำการดึงผิวหนังขึ้นสู่ด้านบน ไม่ว่าจะเป็น หนังตาที่หย่อนคล้อย, หนังคิ้วที่หย่อนคล้อย, ริ้วรอยระหว่างคิ้ว และริ้วรอยหน้าผาก ไปด้วยกันในครั้งเดียวการยกคิ้วเอ็นโดรไทน์นั้นเนื่องจากเป็นวิธีการผ่าตัดที่ดึงเนื้อเยื่อของผิวหนังสู่ด้านบนอย่างเพียงพอ ทำให้เห็นผลในเรื่องของการลบเลือนริ้วรอย และยังช่วยในการยกกระชับผิว จึงช่วยชะลอวัยทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ และดูสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
• วัสดุที่ปลอดภัยที่สามารถละลายใน ร่างกาย ภายใน 1 ปี
• ประสิทธิผลกึ่งถาวร
• แทบไม่มีแผลเป็นหรือการเสียหายของเส้นประสาท
• ระยะเวลาการผ่าตัดที่สั้น
• ระยะฟื้นตัวที่รวดเร็ว
• วัสดุที่ปลอดภัยที่สามารถละลายใน ร่างกาย ภายใน 1 ปี
• ประสิทธิผลกึ่งถาวร
• แทบไม่มีแผลเป็นหรือการเสียหายของเส้นประสาท
• ระยะเวลาการผ่าตัดที่สั้น
• ระยะฟื้นตัวที่รวดเร็ว
การดึงหน้าส่วนล่าง Lower Facelift เป็นการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อเลาะและทำการดึงในชั้นลึกที่อยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อชั้นตื้นของใบหน้า (SMAS Layer) และยังมีการผ่าตัดเปลี่ยน จุดเกาะเอ็นยึดใบหน้าใหม่ให้กระชับมากขึ้นด้วยครับ ทั้งนี้เพื่อทำการดึงกระชับโครงสร้างกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นใบหน้าในระดับชั้น SMAS อย่างแท้จริง การผ่าตัดเทคนิคนี้จึงทำให้สามารถยกใบหน้าขึ้นได้มากกว่า ลดแรงตึงของแผล ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม หรือการผ่าตัดดึงหน้าแบบชั้นตื้น
นอกจากนี้แพทย์ยังสามารถที่จะควบคุมแนวแรงดึงในการดึงยกกระชับ แต่ละตำแหน่งบนใบหน้าได้ละเอียด ผลของการผ่าตัดแบบนี้ จึงอยู่ได้นานกว่า และแนวการดึงของใบหน้าจะดูธรรมชาติ โดยอาศัยการควบคุมทิศทางการดึงหน้าชั้นลึก (SMAS Layer) โดยหมอจะผ่าตัดดึงชั้นลึกขึ้นก่อน แล้วค่อยผ่าตัดดึงชั้นตื้น หรือผิวหนังของคนไข้ในตอนท้าย ทำให้แรงตึงบริเวณแผลผ่าตัดน้อยลง เพราะฉะนั้นการผ่าตัดแบบนี้ จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น หรือคีลอยด์น้อยกว่าเทคนิคอื่นๆ อย่างมาก การผ่าตัดดึงหน้าชั้นลึกนี้จึงเหมาะสมอย่างมากสำหรับคนสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องของการหย่อนคล้อยของใบหน้าค่อนข้างเยอะ หรือในคนที่มีปัญหาร่องแก้มลึก ๆ มุมปากตกเยอะ ถุงหมาจูที่เห็นชัดเจน เหนียงใต้คาง และลำคอที่หย่อนคล้อย รวมไปถึงเคสแก้ ในคนไข้ที่เคยดึงหน้ามากแล้ว เป็นต้น
การดึงหน้าชั้นลึก Full Facelift เป็นการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อเลาะและทำการดึงในชั้นลึกที่อยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อชั้นตื้นของใบหน้า (SMAS Layer) และยังมีการผ่าตัดเปลี่ยน จุดเกาะเอ็นยึดใบหน้าใหม่ให้กระชับมากขึ้นด้วยครับ ทั้งนี้เพื่อทำการดึงกระชับโครงสร้างกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นใบหน้าในระดับชั้น SMAS อย่างแท้จริง การผ่าตัดเทคนิคนี้จึงทำให้สามารถยกใบหน้าขึ้นได้มากกว่า ลดแรงตึงของแผล ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม หรือการผ่าตัดดึงหน้าแบบชั้นตื้น
นอกจากนี้แพทย์ยังสามารถที่จะควบคุมแนวแรงดึงในการดึงยกกระชับ แต่ละตำแหน่งบนใบหน้าได้ละเอียด ผลของการผ่าตัดแบบนี้ จึงอยู่ได้นานกว่า และแนวการดึงของใบหน้าจะดูธรรมชาติ โดยอาศัยการควบคุมทิศทางการดึงหน้าชั้นลึก (SMAS Layer) โดยหมอจะผ่าตัดดึงชั้นลึกขึ้นก่อน แล้วค่อยผ่าตัดดึงชั้นตื้น หรือผิวหนังของคนไข้ในตอนท้าย ทำให้แรงตึงบริเวณแผลผ่าตัดน้อยลง เพราะฉะนั้นการผ่าตัดแบบนี้ จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น หรือคีลอยด์น้อยกว่าเทคนิคอื่นๆ อย่างมาก การผ่าตัดดึงหน้าชั้นลึกนี้จึงเหมาะสมอย่างมากสำหรับคนสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องของการหย่อนคล้อยของใบหน้าค่อนข้างเยอะ หรือในคนที่มีปัญหาร่องแก้มลึก ๆ มุมปากตกเยอะ ถุงหมาจูที่เห็นชัดเจน เหนียงใต้คาง และลำคอที่หย่อนคล้อย รวมไปถึงเคสแก้ ในคนไข้ที่เคยดึงหน้ามากแล้ว เป็นต้น
การดึงหน้าชั้นลึก Full Facelift เป็นการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อเลาะและทำการดึงในชั้นลึกที่อยู่ใต้ชั้นกล้ามเนื้อชั้นตื้นของใบหน้า (SMAS Layer) และยังมีการผ่าตัดเปลี่ยน จุดเกาะเอ็นยึดใบหน้าใหม่ให้กระชับมากขึ้นด้วยครับ ทั้งนี้เพื่อทำการดึงกระชับโครงสร้างกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นใบหน้าในระดับชั้น SMAS อย่างแท้จริง การผ่าตัดเทคนิคนี้จึงทำให้สามารถยกใบหน้าขึ้นได้มากกว่า ลดแรงตึงของแผล ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบเดิม หรือการผ่าตัดดึงหน้าแบบชั้นตื้น
นอกจากนี้แพทย์ยังสามารถที่จะควบคุมแนวแรงดึงในการดึงยกกระชับ แต่ละตำแหน่งบนใบหน้าได้ละเอียด ผลของการผ่าตัดแบบนี้ จึงอยู่ได้นานกว่า และแนวการดึงของใบหน้าจะดูธรรมชาติ โดยอาศัยการควบคุมทิศทางการดึงหน้าชั้นลึก (SMAS Layer) โดยหมอจะผ่าตัดดึงชั้นลึกขึ้นก่อน แล้วค่อยผ่าตัดดึงชั้นตื้น หรือผิวหนังของคนไข้ในตอนท้าย ทำให้แรงตึงบริเวณแผลผ่าตัดน้อยลง เพราะฉะนั้นการผ่าตัดแบบนี้ จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น หรือคีลอยด์น้อยกว่าเทคนิคอื่นๆ อย่างมาก การผ่าตัดดึงหน้าชั้นลึกนี้จึงเหมาะสมอย่างมากสำหรับคนสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องของการหย่อนคล้อยของใบหน้าค่อนข้างเยอะ หรือในคนที่มีปัญหาร่องแก้มลึก ๆ มุมปากตกเยอะ ถุงหมาจูที่เห็นชัดเจน เหนียงใต้คาง และลำคอที่หย่อนคล้อย รวมไปถึงเคสแก้ ในคนไข้ที่เคยดึงหน้ามากแล้ว เป็นต้น
เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงในการผ่าตัด แผลเล็ก หลังผ่าตัด 3-4 วัน คนไข้สามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยแพทย์จะนัดตัดไหมภายใน 1-2 สัปดาห์ และนัดดูอาการเพื่อติดตามผลอีก 2 ครั้ง ระหว่างนี้จะไม่พบรอยแผลบริเวณใบหน้า แต่อาจมีอาการปวดบวมเล็กน้อย ซึ่งสามารถรับประทานยาแก้ปวดให้บรรเทาลงได้ ทั้งนี้แผลผ่าตัดจะหายดีภายใน 1 เดือน
เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงในการผ่าตัด แผลเล็ก หลังผ่าตัด 3-4 วัน คนไข้สามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยแพทย์จะนัดตัดไหมภายใน 1-2 สัปดาห์ และนัดดูอาการเพื่อติดตามผลอีก 2 ครั้ง ระหว่างนี้จะไม่พบรอยแผลบริเวณใบหน้า แต่อาจมีอาการปวดบวมเล็กน้อย ซึ่งสามารถรับประทานยาแก้ปวดให้บรรเทาลงได้ ทั้งนี้แผลผ่าตัดจะหายดีภายใน 1 เดือน
เป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงในการผ่าตัด แผลเล็ก หลังผ่าตัด 3-4 วัน คนไข้สามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยแพทย์จะนัดตัดไหมภายใน 1-2 สัปดาห์ และนัดดูอาการเพื่อติดตามผลอีก 2 ครั้ง ระหว่างนี้จะไม่พบรอยแผลบริเวณใบหน้า แต่อาจมีอาการปวดบวมเล็กน้อย ซึ่งสามารถรับประทานยาแก้ปวดให้บรรเทาลงได้ ทั้งนี้แผลผ่าตัดจะหายดีภายใน 1 เดือน
แผลผ่าตัดจะมีไหมเย็บขนาดเล็ก ซึ่งสามารถตัดไหมได้ ประมาณ 5-7 วันตามนัด ในกรณีที่เป็นไหมละลายนั้น ไหมจะละลายเอง ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน คนไข้สามารถทำความสะอาดหน้าได้ตามปกติแต่ควรระวังไม่ให้แผลถูกน้ำ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดแต่หากโดนน้ำก็ซับให้แห้ง การดูแลแผล ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือ เช็ดที่แผลและบริเวณรอบ ๆ เพื่อกำจัดคราบที่เกรอะกรัง แล้วทาครีมขี้ผึ้งฆ่าเชื้อเพื่อให้แผลมีความชุ่มชื้นวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็นหลังอาบน้ำ
แผลผ่าตัดจะมีไหมเย็บขนาดเล็ก ซึ่งสามารถตัดไหมได้ ประมาณ 5-7 วันตามนัด ในกรณีที่เป็นไหมละลายนั้น ไหมจะละลายเอง ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน คนไข้สามารถทำความสะอาดหน้าได้ตามปกติแต่ควรระวังไม่ให้แผลถูกน้ำ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัดแต่หากโดนน้ำก็ซับให้แห้ง การดูแลแผล ให้ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดที่แผลและบริเวณรอบ ๆ เพื่อกำจัดคราบที่เกรอะกรัง แล้วทาครีมขี้ผึ้งฆ่าเชื้อเพื่อให้แผลมีความชุ่มชื้นวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็นหลังอาบน้ำ
ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ควรมีเวลาพัก แล้วประคบเย็นโดยใช้น้ำแข็ง หรือ cold pack ประคบบริเวณรอบๆแผลผ่าตัดบ่อยๆ ตามต้องการเพื่อช่วยลดบวม และลดเลือดออก อาจใช้ผ้าบางๆ เช่นผ้าเช็ดหน้าวางรองที่แผลก่อนตอนนอนหลับไม่ต้องประคบหลังจาก 48 ชั่วโมงไปแล้ว ให้ประคบอุ่นสลับเย็น ประคบได้จนถึง 2 สัปดาห์หลังผ่าตัดหรือขึ้นกับอาการบวม การบวมและฟกช้ำมักจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันแรกซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังผ่าตัด อาการบวมจะค่อยๆยุบลง ประมาณ 70-80% เมื่อ 1 สัปดาห์ และสามารถยุบได้จนหายสนิท เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-2 เดือน
สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกบริเวณที่ทำผ่าตัด งดการยกของหนักช่วง 2-3 วันแรก ส่วนการออกกำลังกายเบาๆ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง โยคะ เริ่มได้ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด การออกกำลังกายที่ใช้แรงมากควรเว้นประมาณ 2 สัปดาห์ การรับประทานอาหารสามารถรับประทานได้ตามปกติ แนะนำให้ทานอาหารอ่อนๆ ในช่วงแรกเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน หลีกเลี่ยงของหมักดอง แอลกอฮอล์ การสูบบุรี่ เพราะมีผลต่อการหายของแผล
สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกบริเวณที่ทำผ่าตัด งดการยกของหนักช่วง 2-3 วันแรก ส่วนการออกกำลังกายเบาๆ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง โยคะ เริ่มได้ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด การออกกำลังกายที่ใช้แรงมากควรเว้นประมาณ 2 สัปดาห์ การรับประทานอาหารสามารถรับประทานได้ตามปกติ แนะนำให้ทานอาหารอ่อนๆ ในช่วงแรกเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน หลีกเลี่ยงของหมักดอง แอลกอฮอล์ การสูบบุรี่ เพราะมีผลต่อการหายของแผล
ในช่วงแรกแผลจะมีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆ อาจมีรอยแดงบ้าง ต่อมาจะจางลงจนเป็นปกติได้ ช่วงแรกอาจมีความรู้สึกตึงๆ แข็งๆ เนื่องจากเริ่มมีการปรับตัวของเนื้อเยื่อบริเวณแผล ซึ่งจะค่อยๆ อ่อนนุ่มลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด การระคายเคืองบริเวณแผลซึ่งจะรบกวนการหายของแผลผ่าตัดและทั้งหมดนี้ ก็คือการปฏิบัติตัวสำหรับเตรียมความพร้อมก่อนทำศัลยกรรม และการดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรม
ในช่วงแรกแผลจะมีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆ อาจมีรอยแดงบ้าง ต่อมาจะจางลงจนเป็นปกติได้ ช่วงแรกอาจมีความรู้สึกตึงๆ แข็งๆ เนื่องจากเริ่มมีการปรับตัวของเนื้อเยื่อบริเวณแผล ซึ่งจะค่อยๆ อ่อนนุ่มลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด การระคายเคืองบริเวณแผลซึ่งจะรบกวนการหายของแผลผ่าตัดและทั้งหมดนี้ ก็คือการปฏิบัติตัวสำหรับเตรียมความพร้อมก่อนทำศัลยกรรม และการดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรม
สุดท้ายนี้คุณหมออยากให้คนที่ต้องการผ่าตัดดึงหน้า ควรเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้ที่จะผ่าตัดด้วยตนเองก่อนทุกครั้ง เพื่อทราบรายละเอียดของเทคนิค รวมถึงปรึกษาถึงเป้าหมายของผลลัพธ์ที่ต้องการ และผลข้างเคียง ของการผ่าตัดแต่ละแบบที่อาจเกิดขึ้น